5 กุมภาพันธ์ 2025
วันนี้ผมอยากชวนคุณมารู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า "emotional memory" หรือ "memory with feeling" คือ ความทรงจำทางอารมณ์ ซึ่งเป็นกลไกของสมองที่ทำให้เรายังคงรู้สึกถึงเหตุการณ์ในอดีตได้ แม้จะจำรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมด
โดยปกติ สมองเรามีสองระบบหลักที่เกี่ยวกับความทรงจำ ซึ่งทำงานร่วมกัน แต่มีหน้าที่แตกต่างกัน
อธิบายง่าย ๆ: Hippocampus จำ "เรื่องราว" ส่วน Amygdala จำ "ความรู้สึก"
เหตุการณ์ที่มีอารมณ์รุนแรงถูกบันทึกไว้อย่างเข้มข้นกว่ารายละเอียดของเหตุการณ์:
หากเหตุการณ์นั้นส่งผลต่อจิตใจเราอย่างรุนแรง สมองจะให้ความสำคัญกับอารมณ์ที่เกี่ยวข้องมากกว่าข้อมูลรายละเอียด
ตัวอย่างเช่น:
ถ้าคุณเคยอกหักในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง วันหนึ่งเมื่อกลับไปที่ร้านเดิม คุณอาจไม่จำได้ว่าเคยนั่งโต๊ะไหน หรือคุยอะไรกันบ้าง
แต่สิ่งที่ยังอยู่คือ "ความรู้สึก" หน่วง ๆ ในใจ ที่ทำให้คุณรับรู้ได้ทันทีว่าสถานที่นี้เคยมีความหมายบางอย่าง
เหตุการณ์ที่มีผลกระทบทางอารมณ์สูงมักถูกจดจำได้นานกว่า เช่น
ในขณะที่ ข้อมูลที่ไม่มีอารมณ์ร่วมมากพอ เช่น รหัสผ่าน หรือสิ่งที่กินเมื่อวาน มักถูกลืมเร็ว เพราะ สมองให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์มากกว่าข้อมูลที่ไม่มีความหมายทางอารมณ์
อธิบายง่าย ๆ: สมองไม่ได้ "เลือกเก็บ" ความทรงจำ แต่ เหตุการณ์ที่มีอารมณ์เกี่ยวข้องจะถูกเชื่อมโยงกับระบบความจำได้แข็งแกร่งกว่า
ตัวกระตุ้นทางอารมณ์ (Emotional Triggers)
บางทีแค่ได้ยินเพลงเดิม ๆ ได้กลิ่นน้ำหอม หรือเดินผ่านสถานที่ที่เคยไปกับเขา สิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้น Amygdala และวงจรความจำทางอารมณ์ ทำให้ "อารมณ์เก่า ๆ" ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
ตัวอย่างเช่น
ถ้าคุณเคยมีความทรงจำดี ๆ กับใครบางคนที่ใช้กลิ่นน้ำหอมเฉพาะ วันหนึ่งเมื่อได้กลิ่นนั้นอีกครั้ง คุณอาจรู้สึกบางอย่างขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
สมองไม่ได้ "ลบ" ความทรงจำออกไปทั้งหมด แต่ระดับการเข้าถึงข้อมูลอาจลดลงตามเวลา และสามารถถูกกระตุ้นขึ้นมาใหม่เมื่อมีตัวกระตุ้นที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น:
คุณอาจคิดว่า "ฉันลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" แต่วันหนึ่งเห็นรูปถ่ายเก่า ๆ แล้วความรู้สึกทั้งหมดกลับมาในพริบตา
อธิบายง่าย ๆ: เราลืม "รายละเอียด" ได้ แต่มักลืม "ความรู้สึก" ไม่ได้
เข้าใจว่ามันคือเรื่องปกติ
อยู่กับมันอย่างไม่ตัดสิน
เปลี่ยนการมองเหตุการณ์นั้นใหม่
แต่ถ้าความทรงจำนั้นสร้างความเจ็บปวด หรือกลายเป็นบาดแผลในจิตใจ ผมอยากให้คุณลองเปิดใจพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญนะครับ เพราะบางเรื่องอาจหนักเกินกว่าที่เราจะรับมือเพียงลำพัง ในทางจิตวิทยามีหลายเทคนิคที่สามารถช่วยให้เราค่อย ๆ ปรับจาก memory with feeling เป็น memory without feeling เพื่อให้ความทรงจำเหล่านั้นไม่ฉุดรั้งเราไว้กับความเจ็บปวด
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจตัวเองมากขึ้น และอยู่กับความทรงจำเหล่านั้นได้อย่างสบายใจขึ้นนะครับ
หมอวอป ณัฎฐชัย (จิตแพทย์)
-----------------
แหล่งอ้างอิง:
1. LaBar, K., Cabeza, R. Cognitive neuroscience of emotional memory. Nat Rev Neurosci 7, 54–64 (2006).
2. R. J. Dolan ,Emotion, Cognition, and Behavior.Science298,1191-1194(2002).DOI:10.1126/science.1076358